นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯได้กำหนดแผนความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และภาคเอกชนเจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ในการออกตรวจโรงงานผลิตซีดี โดยกำหนดวันดีเดย์ในวันที่ 8 ก.พ.2550 ศกนี้ เพื่อให้โรงงานผลิตซีดีที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้วในประเทศจำนวน 38 แห่ง ได้มีการปฏิบัติตามพรบ.การผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี พ.ศ. 2548 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาการผลิตซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่ ถึงแม้จะลดจำนวนลงมากก็ตาม แต่กรมฯยังตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้กำหนดมาตรการต่างๆในการดำเนินการป้องปราม
“สำหรับซีดีละเมิดลิขสิทธิ์จะมีแหล่งที่มา 2 ทาง คือ จากโรงงานนอกประเทศและมีการลักลอกผ่านตามแนวตะเข็บชายแดน ส่วนอีกทางมาจากโรงงานภายในประเทศ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมาจากโรงงานผลิตซีดีที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว หรือโรงงานเถื่อนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และอาจเกิดจากการไรท์แผ่นซีดี ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยเคยถูกกล่าวหาว่ามีโรงงานผลิตซีดีมากกว่า 100 แห่ง ทางกรมฯจึงได้ร่วมกับทางตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษภาคเอกชนเจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าไม่ได้มีโรงงานผลิตซีดีจำนวนมากตามที่ถูกกล่าวอ้าง” อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญากล่าว
ขณะนี้กรมมีกฎหมายควบคุมการผลิตซีดีโดยตรง คือ พรบ.การผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี พ.ศ. 2548 ถือเป็นกฎหมายที่ได้มีการกำหนดมาตรการกำกับดูแลไว้อย่างครบวงจร คือนอกจากโรงงานผลิตซีดีจะต้องขออนุญาตนำเข้าโดยผ่านพิธีการทางศุลกากรแล้ว ตามกฎหมายซีดีเครื่องจักรทุกเครื่องจะต้องแจ้งการครอบครองด้วย และเมื่อจะทำการผลิตโรงงานต้องแจ้งต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาก่อนเริ่มทำการผลิต และต้องใช้เครื่องหมายรับรองการผลิตที่กรมฯออกให้ เพื่อแสดงให้ทราบถึงแหล่งการผลิต รวมทั้งต้องแจ้งการครอบ ครองเม็ดพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตด้วย ขณะเดียวกันเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ต้องการผลิตซีดีก็ต้องแจ้งการว่าจ้างทำการผลิตต่อกรมฯ และต้องใช้เครื่องหมายรับรองงานต้นแบบที่กรมฯออกให้ เพื่อแสดงให้ทราบถึงงานที่ผลิตขึ้นอันมีลิขสิทธิ์
สำหรับแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ที่วางขายในท้องตลาด หากเจ้าหน้าที่จับกุมและยึดมาได้จะมีการสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมแหล่งผลิตต่อไป โดยจะส่งแผ่นซีดีปลอมนั้นไปให้กองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจพิสูจน์ทางวิธีการนิติวิทยาศาสตร์ (Forensic test) เพื่อให้ทราบว่าผลิตมาจากโรงงานใด และจะดำเนินการกับโรงงานนั้น โดยลงโทษอย่างเด็ดขาดทั้งตามกฎหมายซีดี กฎหมายลิขสิทธิ์ และยึดเครื่องจักรตามกฎหมายอาญาด้วย
ขณะนี้กรมฯ ได้ขอความร่วมมือไปยังกรมศุลกากรเพื่อขอให้ตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันกรณีการไรท์แผ่นซีดี กรมฯได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชนเจ้าของลิขสิทธิ์สืบหา ผู้กระทำผิดและดำเนินคดีโดยเด็ดขาด
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญายังกล่าวอีกว่า ล่าสุดกรมฯได้ประสานผ่านทางนางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลเทปและวัสดุโทรทัศน์ โดยทำหน้าที่ตรวจพิจารณา และออกใบอนุญาตค้าเทปและวัสดุโทรทัศน์ เพื่อขอความร่วมมือในการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในชุดจรยุทธ์ เพื่อออกตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำละเมิด ซึ่งได้รับการตอบรับในความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้การตรวจสอบและการดำเนินการป้องปรามผู้กระทำละเมิดมีลักษณะเป็นการบูรณาการและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คนที่ชอบทำผิกกฏหมายสมควรโดนลงโทษ
ตอบลบ